ทำไมต้องมีการทดสอบคอนกรีต(การเก็บตัวอย่างคอนกรีต)ที่อายุ 7, 14, 28 วัน
กำลังอัดของคอนกรีตเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของคอนกรีตที่แข็งตัวแล้ว สามารถหาค่าได้จากการทดสอบที่โครงสร้างหน้างานและหรือเก็บตัวอย่างจากคอนกรีตสดที่ผลิตจากโรงงานหรือโม่ผสมคอนกรีตลงในแบบหล่อทรงมาตรฐาน โดยมาตรฐานกำลังอัดจะกำหนดไว้ที่ 28 วัน มีหน่วยเป็น กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร (ก.ก./ตร.ซม. หรือ ksc.) ซึ่งมักนิยมเรียกกันว่า สเตร้ง ( Strength) นั่นเอง เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าการคอนกรีตที่ผลิตเป็นไปตามที่วิศกรออกแบบ หรือคอนกรีตเมื่อแข็งตัวแล้วสามารถรับกำลังอัดได้ตามที่กำหนดไว้หรือไม่ การกำหนดกำลังอัดของคอนกรีตนอกจากจะระบุกำลังอัดว่าต้องการเท่าไรแล้ว จะมีการระบุด้วยว่ากำลังอัดตามมาตรฐานรูปทรงอะไร มาด้วย
โดยหน้างานที่เป็นโครงการใหญ่ หรือ หน่วยงานราชการ จะเก็บก้อนปูนที่ 9 ลูก กดครั้งะ 3 ลูก ที่ 7,14,28 วัน
และต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นตัวอย่างขนาดอะไร เพราะขนาดต่างกัน ค่าที่ได้ก็ไม่เท่ากัน
การทดสอบกำลังอัดก้อนตัวอย่างคอนกรีตที่อายุ 28 วัน เพื่อยืนยันว่าเป็นไปตามที่ออกแบบเอาไว้ บางโครงสร้างที่ยังไม่ต้องรับแรงที่อายุ 28 วัน เช่นฐานรากของตึกระฟ้า อาจกำหนดกำลังอัดรับรอง (ตามที่ออกแบบ) ที่ 56 หรือ 90 วันก็ได้ ส่วนโครงสร้างที่ต้องการกำลังอัดที่อายุก่อน 28 วัน เช่น พื้นอัดแรง ปกติจะต้องทดสอบกำลังอัดก่อนการอัดแรง คือที่ 2 หรือ 3 วัน เพิ่มเติมจากอายุ 28 วัน
การทดสอบที่อายุ 7 วันมีจุดประสงค์เพื่อการคาดการณ์ผลทดสอบที่ 28 วัน ซึ่งคอนกรีตโดยทั่วไปจะมีกำลังอัดที่ 7 วันเป็นร้อยละ 65-70 ของกำลังอัดที่ 28 วัน หากทราบผลกำลังอัดก่อนที่ 7 วันว่ากำลังอัดที่ 28 วันมีแนวโน้มว่าจะน้อยกว่าที่ออกแบบก็จะได้เตรียมการเสริมกำลังโครงสร้าง หรือกำหนดแนวทางแก้ไขอื่นๆ การทดสอบกำลังอัดที่อายุ 14 วัน อาจมีจุดประสงค์เพื่อต้องการใช้งานโครงสร้างนั้นๆ ที่อายุ 14 วัน เช่นวัสดุ CLSM (Controlled Low Strength Material) ที่นิยมใช้แทนการถมท่อใต้ถนนด้วยดินหรือทรายบดอัด